มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2511 ภายใต้เจตนารมณ์ของ ดร.ไสว สุทธิพิทักษ์ และอาจารย์สนั่น เกตุทัต โดยใช้ชื่อสถาบัน "ธุรกิจบัณฑิตย์" ตั้งอยู่ริมคลองประปา ถนนพระราม 6 สามเสน ในยุคเริ่มต้น ต่อมาจึงเปลี่ยนสถานภาพเป็นวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ในปี พ.ศ. 2513 และเลื่อนฐานะเป็น "มหาวิทยาลัย" ในปี พ.ศ. 2527
ต่อ มาได้เปลี่ยนสถานภาพเป็นวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ในปี พ.ศ. 2513 และเลื่อนฐานะเป็น “มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์” ในปี พ.ศ. 2527 ด้วยพัฒนาการที่ไม่หยุดยั้งผนวกกับการขยายตัวของระบบการศึกษาในประเทศใน ปี พ.ศ. 2532 มหาวิทยาลัยได้ย้ายสถานที่ตั้งมาอยู่ที่ริมคลองประปา ถนนประชาชื่น บนเนื้อที่กว่า เกือบ 100 ไร่ เพื่อก่อสร้างอาคารเรียนและอาคารปฏิบัติการทางการเรียนการสอนที่ทันสมัยรวม ทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกในรูปแบบที่เอื้อประโยชน์ต่อนักศึกษาอย่างสมบูรณ์แบบ ภายใต้สภาวะแวดล้อมที่สวยงาม
และร่มรื่น
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับรอง ISO 9001 : 2008 ทั้งระบบ ทุกคณะวิชา ทุกหน่วยงาน ในองค์กร มหาวิทยาลัยถือเป็นมหาวิทยาลัยที่มีสภาวะแวดล้อมสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของสถานศึกษาในประเทศไทย ภายใต้ปรัชญาการดำเนินงานที่ว่า "นักธุรกิจเป็นผู้สร้างชาติ" โดยมี ดร.อรัญ ธรรมโน เป็นนายกสภามหาวิทยาลัย และ รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ เป็นอธิการบดี
จุดกำเนิดของสถาบัน
การก่อตั้งสถาบันการศึกษาให้มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับของสังคมได้ ผู้ก่อตั้งสถาบันนอกจาจะต้องมีความรู้ ความสามารถ และวิสัยทัศน์ที่เหมาะสมแล้ว ยังต้องมีทุนทรัพย์มากพอเพียงด้วย ยังต้องมีทุนทรัพย์มากพอเพียงด้วย ดังนั้น จึงค่อนข้างเป็นเรื่องที่ลำบอกในการดำเนินงาน แต่มิได้หมายความว่าจำทำไม่ได้ ถ้าหากมีความมุ่งมั่นสูง
สิ่งแรกที่จะต้องดำเนินการคือ การจัดหาสถานที่ก่อนที่ตั้งสถาบันการศึกษา ในการนี้จำเป็นต้องขอกู้เงินจากธนาคารเพื่อซื้อที่ดินมาสำหรับปลูกสร้างอาคาร ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก
หลังจากพยายามเลือกหาที่ดินที่เหมาะสมอยู่หลายที่ ในที่สุดได้ตัดสินใจซื้อที่บริเวณพระราม ๖ ริมคลองประปา สามเสนซึ่งเป็นที่ดินของคุณหญิงสายศรี สกลไกรนุชิต มีเนื้อที่เพียง ๑ ไร่แล้วเริ่มก่อสร้างอาคารเรียนบนที่ดินแปลงนั้นขณะเดียวกันได้ยื่นเรื่องต่อกระทรวงศึกษาธิการขอจัดตั้งสถาบันการศึกษาเอกชน
ผมกับอาจารย์ไสว ต่างมีเงินคนละไม่มากพอที่จะซื้อที่ดินและปลูกสร้างอาคารได้ จึงต้องไปขอกู้ยืมธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารกรุงเทพ มาซื้อที่ดิน และปลูกสร้างอาคารหลังแรกที่ถนนพระราม ๖ ริมคลองประปาสามเสน
ต่อมา เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๑ กระทรวงศึกษาธิการได้อนุญาตให้เปิดการเรียนการสอนระดับอุดมศึกษาหลักสูตร ๓ ปี และรับอาชีวศึกษาหลักสูตร ๒ ปี โดยให้รับผู้จบ ม.ศ. ๕ หรือเทียบเท่า เข้าศึกษาต่อใน “โรงเรียนธุรกิจบัณฑิตย์” ซึ่งตั้งอยู่ ณ เลขที่ ๗๓ ถนนพระราม ๖ ริมคลองประปา สามเสน กรุงเทพมหานคร
จากนั้น เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ปีเดียวกัน “โรงเรียนธุรกิจบัณฑิตย์” ได้ขอเปลี่ยนสถานภาพเป็น ”สถาบันธุรกิจบัณฑิตย์” และทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ โดยมี นายทวี บุณยเกตุ อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธี ดังนั้น วันที่ ๓๐ พฤษภาคม ของทุกปี จึงถือเป็นวันสถาปนาของสถาบันการศึกษาแห่งนี้ตราบจนถึงปัจจุบัน
ชื่อสถาบันและตราประจำสถาบัน
คำว่า “ธุรกิจบัณฑิตย์” ซึ่งเป็นชื่อของมหาวิทยาลัย หมายถึงความรอบรู้ทางด้านธุรกิจ ส่วนดวงตราประจำสถาบัน เป็นรูปพระสิทธิธาดา ประทับนั่งบนแท่น มีวงกลมล้อมรอบ ๒ ชั้น ขอบของวงกลมนอก ประดับด้วยกลีบบังซ้อนกันรวม ๓๒ กลีบ ระหว่างวงกลมนอกกับวงวกลมใน มีนพรัตน์หรือวงแก้ว ๙ ดวง วางอยู่ห่างกันเป็นช่วงเท่า ๆ กัน
ทั้งชื่อสถาบันและตราประจำสถาบัน อาจารย์ ดร.ไสว สุทธิพิทักษ์ เป็นผู้คิดขึ้นโดยขอคำปรึกษาจากพระยาอนุมานราชธน นักปราชญ์คนสำคัญของเมืองไทย ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของอาจารย์ ดร.ไสวดังข้อความที่ปรากฏในจดหมายลงวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๐ ที่อาจารย์ ดร.ไสว เขียนไปถึงพระยาอนุมานราชธน ว่า “เรื่องที่กระผมขอรบกวนท่านอาจารย์มีดังนี้
๑. เรื่องชื่อสถาบัน กระผมตั้งใจว่าจะใช้ชื่อ “ธุรกิจบัณฑิตย์วิทยาลัย” ตรงกับภาษาอังกฤษว่า COLLEGE OF BUSINESS ADMINISTRATION
เหตุผล : คำ BUSINESS นี้ ตรงกับคำว่า ธุรกิจ
คำ บัณฑิตย์ แปลว่า ความรู้
ธุรกิจบัณฑิตย์ แปลว่า ความรู้ทางธุรกิจ
๒. เรื่องตราหรือเครื่องหมายของสถาบัน กระผมตั้งใจจะใช้ตราหรือเครื่องหมายพระสิทธิธาดา
เหตุผล : กระผมค้นจากเรื่อง “พระคเณศ” ซึ่งท่านอาจารย์และนาคะประทีป เขียนไว้ในวารสารศิลปากร ปีที่ ๑ เล่มที่ ๕ พ.ศ. ๒๔๘๐ ว่า “….พระคเณศเป็นเทพประจำความขัดข้อง และเป็นผู้อำนวยความสำเร็จให้แก่กิจกรรมต่าง ๆ…”
พระสิทธิธาดาซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของตราประจำสถาบัน เป็นปางหนึ่งของพระคเณศ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จและปัญญา
พระคเณศมีเศียรเป็นช้าง มีร่างเป็นมนุษย์ ส่วนพระสิทธิธาดามีร่างกเป็นร่างเป็นมนุษย์ทั้งหมด มีกายสีทองและสีเขียว กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ พระสิทธิธาดาเป็นปางหนึ่งของพระคเณศที่มีร่างเป็นมนุษย์นั่นเอง
ส่วนประกอบของตราประจำสถาบัน ซึ่งมีกลีบบัวซ้อนกัน ๓๒ กลีบ มีวงกลมวงนอก แล้วแก้ว ๙ดวง หรือนพรัตน์ ระหว่างวงกลมวงนอกกับวงกลมวงในนั้น มีความหมายดังนี้
กลีบบัวซ้อนกัน ๓๒ กลีบ ดอกบัว หมายถึง ความงาน ความดี ความเจริญ และคุณธรรม จำนวน ๓๒ หมายถึง อาการครบถ้วนบริบูรณ์ ๓๒ ประการของมนุษย์ ฉะนั้น กลีบบัวซ้อนกัน ๓๒ กลีบจึงเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ และถูกต้องดีงาม
แก้ว ๙ ดวง หรือ นพรัตน์ หมายถึง คุณสมบัติสำคัญที่นักธุรกิจที่ดีพึงมี ประกอบด้วยแก้วดวงต่างๆ ดังนี้
ดวงที่ ๑ มีความรู้ในเรื่องภาษาดี
ดวงที่ ๒ มีความรู้หรือวิชาการต่างๆ ในด้านธุรกิจ
ดวงที่ ๓ มีความสามารถใช้ความรู้นั้น ๆ
ดวงที่ ๔ มีความคิดก้าวหน้า
ดวงที่ ๕ มีความขยันขันแข็ง เอาใจใส่ และอดทน
ดวงที่ ๖ มีมารยาทอันดีงาม และมีความซื่อสัตย์สุจริต
ดวงที่ ๗ มีความรับผิดชอบในหน้าที่
ดวงที่ ๘ รู้จักใช้โอกาส
ดวงที่ ๙ มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่
สีประจำสถาบัน
สีประจำสถาบันคือ ม่วง – ฟ้า
ม่วง หมายถึง อุตสาหกรรม คือ การกระทำสิ่งของให้เป็นสินค้า
สีฟ้า หมายถึง พาณิชยกรรม คือการค้า
ดังนั้น สีม่วง – ฟ้า หมายถึงการปฏิบัติทางธุรกิจ
ต้นไม้ประจำสถาบัน
ต้นไผ่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น